ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากกลุ่มกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์แห่กันเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคับคั่ง หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นทะลุระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 915.10 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 32.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 886.60-918.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 17.125 ดอลลาร์/ออนซ์ ดีดขึ้น 62.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ดีดขึ้น 5.7 เซนต์ ปิดที่ 3.8250 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 2,068.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 55.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 471.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ดีดขึ้น 6.25 ดอลลาร์
คาร์ลอส ชานเซส นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มพี กรุ๊ป ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล จูงใจให้กลุ่มกองทุนเข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหนาแน่น รวมถึงสัญญาทองคำและน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงด้วย"
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 5.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 139.64 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 140.39 ดอลลาร์ ภายหลังจากนายชากิบ คาลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 150 - 170 ดอลลาร์/บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--