สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ซื้อขายอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 142 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (2 ก.ค.) หลังประธานกลุ่มโอเปคออกมาแสดงความกังวลว่า ความต้องการน้ำมันในอนาคตอาจจะผันผวน ส่งผลให้ทางกลุ่มไม่กล้าทุ่มงบลงทุนมูลค่ามหาศาลเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้น 1.06 ดอลลาร์ แตะ 142.03 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 140.97 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้ที่ตลาดนิวยอร์ก
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือส่งมอบเดือนส.ค.บวก 1.12 ดอลลาร์ แตะ 141.79 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 140.67 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ตลาดลอนดอน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันทั้งสองทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวัน โดยสัญญาน้ำมันดิบนิวยอร์กทะยานแตะ 143.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ในขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานแตะ 143.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ชากิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานของแอลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มโอเปค กล่าวในที่ประชุมเวิลด์ ปิโตรเลียม คองเกรส ในกรุงมาดริด ประเทศสเปนว่า กลุ่มโอเปคมีความกังวลว่าความต้องการน้ำมันในอนาคตอาจจะไม่แน่นอน ส่งให้ทางกลุ่มไม่กล้าทุ่มงบลงทุนมูลค่ามหาศาลกับสาธารณูปโภคด้านน้ำมันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกว่าสองเท่าตลอดปีที่ผ่านมา และทะยานกว่า 40% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและสภาพเศรษฐกิจโลก
ประเทศผู้บริโภคน้ำมันโทษว่า ราคาน้ำมันสูงขึ้นเพราะอุปทานน้ำมันมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างอิหร่าน อิรัก และไนจีเรีย หรือพูดง่ายๆว่ากลุ่มโอเปคผลิตน้ำมันน้อยเกินไปนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม นายเคลิลกล่าวว่า ความผิดอยู่ที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในน้ำมันแทน
ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังรอดูรายงานปริมาณน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--