ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ราคาพืชผลร่วงลงอย่างหนักเป็นวันที่ 2 หลังราคาน้ำมันลดลง ในขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้อุปสงค์ลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด เฟลเตส รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของ MF Global ออกมาเตือนว่า ราคาพืชผลอาจดีดตัวสูงขึ้นอีกอันเป็นผลมาจากปัจจัยที่คาดไม่ถึง เช่น อาจมีพายุเฮอริเคนพัดถล่มสหรัฐ หรือพื้นที่เพาะปลูกในแถบมิดเวสท์อาจถูกน้ำท่วมซ้ำอีก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 24.5 เซนต์ ปิดที่ 7.225 ดอลลาร์ต่อบุชเชล หลังจากที่ร่วงหนักกว่า 45 เซนต์ แตะ 7.02 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วง 31.5 เซนต์ ปิดที่ 15.295 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้นครึ่งเพนนี ปิดที่ 8.365 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
อีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้ราคาพืชผลปรับตัวลดลงคือ กระแสความวิตกที่ว่าคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าอาจตัดสินใจห้ามมิให้มีการนำเงินบำนาญมาลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลงลดอย่างมาก
"หากสภาคองเกรสผ่านร่างดังกล่าวจริง ผู้ซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จะลดจำนวนลงอย่างมาก" ทอม พาวลิคกิ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก MF Global Research กล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--