ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ตื่นข่าวอิหร่านยิงขีปนาวุธรอบสอง ดันน้ำมันพุ่งปิดที่ $141.65

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 5.60 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) หลังจากมีข่าวว่าอิหร่านยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งที่สองเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกว่าความตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางอาจทวีความรุนแรงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงาน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 141.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 141.65-136.69 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ดีดขึ้น 13.01 เซนต์ ปิดที่ 3.5109 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 18.58 เซนต์ ปิดที่ 4.0374 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 5.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 142.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
          สถานีโทรทัศน์อัล-อาลัมของทางการอิหร่านรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านได้ทดสอบยิงขีปนาวุธระลอกที่ 2 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่าการทดสอบยิงขีปนาวุธในอ่าวเปอร์เซียครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุด โดยมีทั้งการยิงทั้งจากชายฝั่งลงทะเล แบบเผชิญหน้า แบบทะเลสู่อากาศ 
          นอกจากนี้ การทดสอบยิงขีปนาวุธยังรวมถึงการยิงตอร์ปิโด Hoot ซึ่งเป็นอาวุธความเร็วสูงที่สามารถโจมตีเรือดำน้ำได้ 
          ก่อนหน้าที่อิหร่านจะทดสอบยิงขีปนาวุธลูกที่ 2 ได้ไม่นาน ดร.คอนโดลิสซ่า ไรซ์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ออกมาโจมตีอิหร่านที่ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลลูกแรก โดยระบุว่าสหรัฐพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประเทศพันธมิตร
          จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า "ข่าวการทดสอบยิงขีปนาวุธลูกที่ 2 ของอิหร่านยิ่งเพิ่มความตื่นตระหนกให้กับตลาด และจุดกระแสความวิตกกังวลที่ว่าความตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางอาจทำให้เกิดภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมัน"
          ก่อนหน้านี้ นายอาลี ชีราซี ผู้ช่วยนายอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะตอบโต้อิสราเอลและสหรัฐทันทีหากฐานที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านถูกโจมตี และขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นเส้นทางที่เรือบรรทุกน้ำมันกว่า 1 ใน 5 ของโลกจะต้องใช้เส้นทางนี้
           นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางนับตั้งแต่สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนทากอน) ว่า อิสราเอลซ้อมรบครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านเพื่อส่งสัญญาณว่า อิสราเอลมีแสนยานุภาพสูงพอที่จะโจมตีฐานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
          จิม ริทเทอร์บุช หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอส์ ในรัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า "อิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกและใหญ่เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มโอเปค เรือบรรทุกน้ำมัน 40% ทั่วโลกต้องแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซซึ่งตั้งอยู่ปากอ่าวเปอร์เซีย หากอิหร่านและอิสราเอลปะทะกัน ก็จะส่งผลให้การลำเลียงน้ำมันในช่องแคบแห่งนี้ชะงักงันด้วย"
          "นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อเลขาธิการโอเปคกล่าวว่า โอเปคจะไม่เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยกับผลผลิตที่หายไป หากอิหร่านถูกโจมตี สิ่งที่สร้างความหวั่นวิตกอย่างมากในเวลานี้คืออิหร่านอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซ" ริทเทอร์บุชกล่าว