สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเช้าวันนี้ (11 ก.ค.) หลังจากที่ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นจากกระแสความวิตกกังวลต่อผลผลิตน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่านที่ปฏิบัติการทดลองยิงขีปนาวุธถึงสองครั้งในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้น 13 เซนต์ แตะ 141.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังพุ่งทะยานขึ้น 5.60 ดอลลาร์ปิดที่ 141.65 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 8 เซนต์ แตะที่ 141.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ไต่ระดับขึ้น 5.45 ดอลลาร์ปิดที่ 142.03 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้
วิคเตอร์ ชุม นักวิเคราะห์จากเปอร์วิน แอนด์ เกิร์ตส์ ในสิงคโปร์กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นและอาจทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ หลังจากที่เพิ่งปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 137 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
เขากล่าวว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นการดีดตัวทางเทคนิค แต่ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน คือความตึงเครียดในอิหร่านและเหตุการณ์ความไม่สงบในไนจีเรีย
นอกจากนี้ การที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงซึ่งทำให้นักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินที่แข็งค่ากว่าซื้อน้ำมันได้ในราคาถูกลงนั้นยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การขยายตัวของผลผลิตน้ำมันมีจำนวนน้อยกว่าระดับของอุปสงค์
นี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่านทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจากกรณีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยอิหร่านกล่าวว่า โครงการนิวเคลียร์มีขึ้นเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะที่ชาติตะวันตกหวั่นเกรงว่าโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์ในการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปคได้ปรับลดประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันในระยะยาวโดยกล่าวว่า ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกจะปรับตัวลดลง 3.7% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ เนื่องจากหลายประเทศเริ่มหันมาประหยัดการใช้พลังงานกันมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--