ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวสไตร์คในบราซิล ดันราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ $145.18

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) โดยราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 145 ดอลลาร์เป็นครั้งที่ 3 แล้วในเดือนนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมีข่าวว่าคนงานบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในบราซิลก่อเหตุประท้วง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 145.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.17 เซนต์ ปิดที่ 4.0649 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.55 เซนต์ ปิดที่ 3.5577 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 143.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
          เอดิสัน อาร์มสต็อง "ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ผันผวนมาก โดยมีนักลงทุนบางกลุ่มพยายามเข้ามาทุ่มซื้อ และอีกกลุ่มพยายามเข้ามากระหน่ำขาย หลังจากมีข่าวว่าประธานาธิบดีบุชประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง ซึ่งเดิมเห็นว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขภาวะอุปทานพลังงานขาดแคลนได้และอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสำเร็จ"
          "ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันและภาวะอุปทานน้ำมัน" อาร์มสตร็องกล่าว
          อาร์มสตร็องระบุว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับอิทธิพลจากข่าวที่ว่าสหภาพคนงานบริษัทน้ำมันแห่งบราซิลเริ่มเปิดฉากการประท้วงระยะเวลา 5 วันเมื่อวานนี้ เพื่อคัดค้านบริษัท เปโตรลิโอ บราซิเลริโอ (ปิโตรบาส) เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลบราซิล โดยคาดว่าการประท้วงดังกล่าวจะทำให้ผลผลิตน้ำมันในบราซิลทรุดตัวลงกว่าครึ่งหนึ่ง
          โฮเซ แรนเจล ผู้นำสหภาพฯเปิดเผยว่า การประท้วงครั้งนี้ประกอบไปด้วยสมาชิกสมาพันธ์ราว 4,500 คนในฐานการผลิตน้ำมันคัมโปส เบซิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถผลิตน้ำมันได้มากที่สุดในบราซิล เพื่อประท้วงเรื่องค่าแรงและกฏข้อบังคับในการทำงาน โดยรายงานระบุว่าคนงานกว่า 70% ที่ฐานการผลิตแห่งนี้ขู่ว่าจะออกจากงานหากรัฐบาลไม่ยินยอมทำตามข้อตกลง
          นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ความเคลื่อนไหวระหว่างอิหร่านและอิสราเอล โดยเมื่อวานนี้นายโมจ์จาบา โซลนัวร์ ผู้ช่วยของอยาตอลลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศกร้าวว่า อิหร่านพร้อมโจมตีฐานที่มั่น 32 แห่งของสหรัฐ และเมืองหลวงของอิสราเอล หากอิหร่านถูกโจมตีก่อน
          "หากอเมริกาและอิสราเอลยิงขีปนาวุธหรือแม้แต่ยิงปืนใส่เรา เราจะโจมตีเมืองหลวงของอิสราเอลและฐานที่มั่น 32 แห่งของสหรัฐทันที" โมจตาบะ โซลนัวร์ ตัวแทนของผู้นำอิหร่าน กล่าว
         ทั้งนี้ สถานการณ์ระหว่างประเทศตะวันตกและอิหร่านเริ่มตึงเครียดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่อิหร่านทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจนสร้างความตระหนกไปทั่วโลก