ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกเศรษฐกิจทรุด ฉุดราคาน้ำมันร่วงปิดที่ $128.88

ข่าวต่างประเทศ Saturday July 19, 2008 07:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) โดยราคาเคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรลติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสัญญาน้ำมันดิบเพราะกังวลว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวและฉุดตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคให้ทรุดตัวลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจต่อข่าวการโจมตีท่อส่งน้ำมันไนจีเรีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 41 เซนต์ ปิดที่ 128.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 5.23 เซนต์ ปิดที่ 3.6915 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.73 เซนต์ ปิดที่ 3.1709 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 88 เซนต์ ปิดที่ 130.9 ดอลลาร์/บาร์เรล
สตีเฟ่น ชอร์ค นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยด้านพลังงานรายใหญ่ในสหรัฐกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลงจากผลพวงของวิกฤตซับไพร์มส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในวงกว้าง นอกจากนี้ นักลงทุนและเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มองว่าการที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องถือเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจให้ทรุดหนักลงไปอีก จึงตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบ และฉุดราคาเคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน"
ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงแม้มีรายงานข่าวว่า เกิดเหตุระเบิดที่ท่อส่งน้ำมันของบริษัท Eni SpA ในพื้นที่ตอนใต้ของไนจีเรีย ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน และก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงแห่งไนจีเรียและมือปืนที่บุกโจมตีเรือของกองกำลังรักษาความมั่นคงในพื้นที่สามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของไนจีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน
"สถานการณ์ที่ไม่สงบในไนจีเรียส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศลดลงไปราว 20,000 บาร์เรล/วัน หรือ เกือบ 1 ใน 4 ของปริณการผลิตโดยรวมของไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่สุดในทวีปแอฟริกา" ชอร์คกล่าว
นักลงทุนยังคงจับตาดูความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล หลังจากระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า อิหร่านมีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งสามารถโจมตีพื้นที่หลายแห่งในยุโรปใต้และยุโรปตะวันออก โดยเชื่อว่าขณะนี้อิหร่านมีขีปนาวุธพิสัย 1,250 ไมล์ (2,000 กิโลเมตร) และกำลังพัฒนาขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งที่รู้จักกันในชื่อ "แอสฮูรา" ที่มีพิสัย 1,250 ไมล์
รอย เมสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทออยล์ มูฟเมนท์ส ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานของอังกฤษคาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันของกลุ่มโอเปค อาจพุ่งขึ้น 560,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 4 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ