ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงมากกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องพายุโซนร้อน"ดอลลี่"ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเหนืออ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซที่สำคัญ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า พายุลูกดังกล่าวจะไม่สร้างความเสียหายต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 3.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 127.95 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในช่วงเปิดตลาดสัญญาส่งมอบเดือนส.ค.ซึ่งหมดอายุลงในวันนี้และจะแทนที่ด้วยสัญญาเดือนก.ย.ในวันพุธ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 125.63 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นครั้งที่ 4 ที่สัญญาน้ำมันร่วงลงในการซื้อขาย 5 วันทำการที่ผ่านมา
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 6.97 เซนต์ ปิดที่ 3.6782 ดอลลาร์/แกลลอนและสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ทรุดลง 7.01 เซนต์ ปิดที่ 3.147 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 129.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
รายงานระหว่างกาลที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อวันอังคารโดยคณะทำงาน The Interagency Task Force on Commodity Markets ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันเดินหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบุว่า ปัจจัยอุปสงค์-อุปทานเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งทะยาน ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติและบรรดานักวิจารณ์หลายรายเชื่อว่าราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นั้น เป็นผลมาจากการเก็งกำไร
การร่วงลงของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนซึ่งดันราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เหนือ 147 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อกว่า 10 วันที่ผ่านมานั้น กำลังเทขายสัญญาน้ำมันอย่างหนักหน่วง อีกทั้งยังชี้ให้เห็นด้วยว่า การที่ตลาดไม่มีข่าวน่าตื่นเต้นก็สามารถทำให้ราคาขยับลงได้เช่นเดียวกับที่ความกังวลเรื่องอุปทานเคยหนุนให้ราคาพุ่งในช่วงก่อนหน้านี้มาแล้ว
ทั้งนี้ มีสัญญาณใหม่ๆบ่งชี้ว่า ราคาน้ำมันแพงทำให้ความต้องการลดลง โดยเฉพาะในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก โดยในการสำรวจการใช้จ่ายที่สถานีบริการน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งจัดทำโดยมาสเตอร์การ์ดพบว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินร่วงลงในสัปดาห์ก่อนเป็นสัปดาห์ที่ 13 ติดต่อกันแล้ว โดยร่วงลง 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์เดียวกันของปีก่อนและนับตั้งแต่ต้นปี 2551 ความต้องการน้ำมันเบนซินลดลงแล้ว 2.2%
นอกจากนี้ ความตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่าพายุโซนร้อน"ดอลลี"เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซที่สำคัญและเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเมื่อวันจันทร์นั้น ได้เริ่มคลี่คลายลงแล้วและไม่สามารถสกัดแรงเทขายที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้
เมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐเมื่อวานนี้ (22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) ศูนย์กลางของพายุโซนร้อนดอลลี่อยู่เหนืออ่าวเม็กซิโกประมาณ 230 ไมล์ (370 กิโลเมตร) และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือที่ความเร็วลมประมาณ 12 ไมล์ต่อชั่วโมง (20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งห่างจากแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซที่สำคัญของสหรัฐ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--