ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ $124.44 หลังสต็อกเบนซินพุ่งเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 24, 2008 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) โดยราคาร่วงลงต่ำกว่าระดับ 125 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้นในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง จะส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 3.98 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 124.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.เป็นต้นมา ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเดือนส.ค.ครบกำหนดส่งมอบไปเมื่อวันอังคาร
สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 12.8 เซนต์ ปิดที่ 3.5501 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 11.26 เซนต์ ปิดที่ 3.0344 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 4.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 125.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 295.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับลงเพียง 700,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 217.1 ล้านบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 128.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.3 ล้านบาร์เรล
สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงายงานว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินในรอบ 4 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 18 ก.ค. ลดลง 2.4% จากปีที่แล้ว แตะระดับเฉลี่ย 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าราคาพลังงานที่แพงขึ้นกำลังทำให้ความต้องการลดน้อยลง และสอดคล้องกับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า เศรษบกิจและภาคธุรกิจในหลายภูมิภาคของสหรัฐชะลอตัวลงเนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น
จิม ริทเทอร์บุช ประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า นักลงทุนจับตาดูวิถีโคจรของพายุโซนร้อน "ดอลลี" หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อนดอลลีมุ่งหน้าเข้าสู่ชายฝั่งรัฐเท็กซัส และทวีความรุนแรงขณะเคลื่อนตัวผ่านกระแสน้ำอุ่นในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าพายุลูกนี้จะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไมล์ในสหรัฐและบริเวณชายฝั่งเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฮอริเคนฯเชื่อว่า พายุโซนร้อนดอลลีจะไม่สร้างความเสียหายให้กับฐานการผลิตน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งปริมาณการผลิตน้ำมันในพื้นที่แห่งนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 4 ของผลผลิตทั้งหมดภายในประเทศ
"พายุดอลลีซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดที่ 50 ไมล์ (85 กิโลเมตร/ชั่วโมง) และคาดว่าจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคน โดยศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบราวส์วิลล์ในรัฐเท็กซัสประมาณ 405 ไมล์" ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติกล่าวในแถลงการณ์
รายงานระบุว่าบริษัท เชลล์ ออยล์ ได้อพยพคนงาน 125 คนออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกแล้ว และเตรียมอพยพคนงานอีก 60 คนแต่ยืนยันว่าจะไม่ปิดทำการผลิต ขณะที่บริษัท เอ็กซอน โมบิล ได้เตรียมรับมือกับพายุดอลลีเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ