น้ำมัน NYMEX ร่วงต่ำสุดในรอบ 7 วีคแตะ $123.98 เหตุอุปสงค์จากสหรัฐลดลง

          สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐรายงานข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอยู่ในขั้นย่ำแย่ ขณะที่ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก
          โดยราคาน้ำมันขณะนี้ดิ่งลงกว่า 23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาน้ำมันที่ร่วงลง 15% นั้นนับเป็นสถิติการดิ่งลงมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2550
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 46 เซนต์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 123.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ดิ่งลงกว่า 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ 
          ราคาน้ำมันที่ร่วงลงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐรอบสัปดาห์ล่าสุดพุ่งสูงขึ้นเกินคาด ประกอบกับความต้องการน้ำมันที่ลดลงโดยจะเห็นได้จากยอดนำเข้าน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก
          "เรายังไม่เห็นว่าจะมีปัจจัยอื่นใดที่ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้นในระยะนี้" เท็ตสึ อิโมริ นักวิเคราะห์จาก Astmax Co Ltd กล่าว โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวสู่ระดับ 117 -118 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในสัปดาห์นี้
          "ในระยะยาว ความต้องการน้ำมันในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะช่วยถ่วงดุลความต้องการน้ำมันในสหรัฐและประเทศอื่นๆที่ชะลอตัวลง แต่ขณะนี้ตลาดยังคงจับตาความเคลื่อนไหวในระยะสั้นๆเท่านั้น"
          ทั้งนี้ วาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกประจำปี 2551 โดยให้เหตุผลถึงปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐและกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ที่ปรับตัวลดลงหนักกว่าคาดการณ์