ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) หลังจากมีข่าวว่ากลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนได้เข้าโจมตีท่อส่งน้ำมัน 2 แห่งในไนจีเรีย และข่าวที่ว่าอิหร่านกล่าวอ้างว่ามีโครงการนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า แต่ส่งสัญญาณว่าเต็มใจที่จะร่วมงานกับสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 124.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ดีดตัวขึ้น 3.91 เซนต์ ปิดที่ 3.562 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 3.77 เซนต์ ปิดที่ 3.07 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.32 เซนต์ ปิดที่ 125.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่า กลุ่มกบฏในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ของไนจีเรียได้เข้าจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ 2 แห่ง ส่งผลให้เชลล์ต้องระงับการผลิตน้ำมันบางส่วน ขณะที่โฆษกของเชลล์ยอมรับว่าท่อส่งน้ำมันได้รับความเสียหาย และต้องระงับการผลิตน้ำมันบางส่วนเพื่อป้องกันการรั่วไหล
สตีเฟ่น ชอร์ค นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยด้านพลังงานรายใหญ่ในสหรัฐกล่าวว่า "นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ความไม่สงบในไนจีเรียอย่างใกล้ชิด เพราะเหตุรุนแรงในไนจีเรียส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศลดลงไปราว 20,000 บาร์เรล/วัน หรือ เกือบ 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตโดยรวมของไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่สุดในทวีปแอฟริกา"
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดที่ท่อส่งน้ำมันของบริษัท Eni SpA ในพื้นที่ตอนใต้ของไนจีเรีย ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน และเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงแห่งไนจีเรียและมือปืนที่บุกโจมตีเรือของกองกำลังรักษาความมั่นคงในพื้นที่สามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของไนจีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน
นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีมาห์หมุด อมาดิเนจ๊าดแห่งอิหร่านประกาศว่า อิหร่านมีโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม 6,000 แห่ง ซึ่งสูงกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ถึง 2 เท่า พร้อมกับระบุว่า "ชาติมหาอำนาจบางราย" ปั่นราคาน้ำมัน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันไม่สะท้อนกับสภาพความเป็นจริงของตลาด
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NBC ครั้งนี้ ประธานาธิบดีอิหร่านระบุว่า ตลาดน้ำมันถูกกดดันโดยปัจจัยที่หลากหลาย พร้อมแสดงความเห็นว่า "เราคิดว่าตลาดควรเป็นอิสระและการซื้อขายน้ำมันควรมีทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้ เราเชื่อว่ามีการปั่นราคาในตลาดอย่างแน่นอน" อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านพร้อมที่จะร่วมมือกับสหรัฐในทางสันติ
ก่อนหน้านี้ นายชากิบ เคลิล ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจร่วงลงแตะระดับ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านบรรเทาลง
"ผมมั่นใจว่าหากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น และความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกคลี่คลายลง ก็จะทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงไปแตะที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์" นายเคลิลกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--