ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินและยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ และยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังจากมีข่าวการโจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัทเชลล์ในไนจีเรีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 927.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หลังจากปรับตัวในช่วง 922.40-932.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 17.465 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.0 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 3.612 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,776.70 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 18.00 ดอลลาร์ และพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 391.25 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.25 ดอลลาร์
ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง หลังจากคณะทำงานประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณอาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.82 แสนล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจทรุดตัวลง และรัฐบาลต้องนำเงินจำนวนมากไปใช้ในมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ จากข่าวที่ว่ากลุ่มกบฏในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ของไนจีเรียได้เข้าจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ 2 แห่ง ส่งผลให้เชลล์ต้องระงับการผลิตน้ำมันบางส่วนเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--