คากิบ เคลิล ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ "ผิดปกติ" และระบุว่าโอเปคจะไม่ลดการผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานน้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ
"ราคาน้ำมันในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงเกิน ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยในเรื่อง สถานการณ์น้ำมันที่สูงขึ้นอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเช่นนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อทั้งกลุ่มผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมัน" เคลิลกล่าว
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงทำให้นักลงทุนหันเข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
"ราคาน้ำมันในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับปัจจัยอุปสงค์และอุปทานเพราะเราไม่สามารถอธิบายได้ว่าราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปราว 20 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเพียง 1 วันหรือ 2 วันเป็นเพราะปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทาน เพราะปัจจัยอุปสงค์และอุปทานไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภายในวันเดียวได้" ประธานโอเปคกล่าว
กลุ่มโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันได้กว่า 40 % ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก จะจัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อทบทวนเพดานการผลิตหลังจากที่โอเปคได้ตรึงเพดานการผลิตในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมา คืนในเดือนธ.ค.ปี 2550 เดือนก.พ.และเดือนมี.ค.ปีนี้
ก่อนหน้านี้ ประธานโอเปคคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจร่วงลงแตะระดับ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านบรรเทาลง
"ผมมั่นใจว่าหากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น และความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกคลี่คลายลง ก็จะทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงไปแตะที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์" นายเคลิลกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--