ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2.5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) และแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น และจากความกังวลที่ว่าราคาน้ำมันที่พุ่งรุนแรงเกินไปจะทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย นอกจากนี้ การที่ประธานโอเปคส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดปริมาณการผลิต ยิ่งกดดันให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเกือนก.ย.ร่วงลง 2.54 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 122.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.เป็นต้นมา โดยขณะนี้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วกว่า 25 ดอลลาร์นับตั้งแต่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 8.98 เซนต์ ปิดที่ 3.4722 ดอลลาร์/แกลลอน ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 6.23 เซนต์ ปิดที่ 3.0077 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 3.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
จิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในรัฐอิลลินอยส์ กล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ภายหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระของสหรัฐ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 51.9 จุด จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 51 จุด
"นอกจากนี้ การที่ประธานโอเปคออกมาแสดงความเห็นเรื่องราคาน้ำมันและส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดปริมาณการผลิต ยิ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้นด้วย" ริทเทอร์บุชกล่าว
ชากิบ เคลิล ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ "ผิดปกติ" และระบุว่าโอเปคจะไม่ลดการผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานน้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ พร้อมระบุว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งกลุ่มผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมัน
"ราคาน้ำมันในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับปัจจัยอุปสงค์และอุปทานเพราะราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงไปราว 20 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเพียง 1 วันหรือ 2 วัน ปัจจัยอุปสงค์และอุปทานไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภายในวันเดียวได้" ประธานโอเปคกล่าว
กลุ่มโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันได้กว่า 40 % ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก จะจัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อทบทวนเพดานการผลิตหลังจากที่โอเปคได้ตรึงเพดานการผลิตในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมา คืนในเดือนธ.ค.ปี 2550 เดือนก.พ.และเดือนมี.ค.ปีนี้
ก่อนหน้านี้ ประธานโอเปคคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจร่วงลงแตะระดับ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านบรรเทาลง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจร่วงลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--