สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในวันนี้ ก่อนที่ทางการสหรัฐจะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะข้อมูลดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันให้เกิดความวิตกกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้านี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 42 เซนต์ ไปอยู่ที่ 121.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากราคาน้ำมันรูดลง 2.54 ดอลลาร์ไปอยู่ที่ 122.19 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้
ราคาน้ำมันดิ่งลงประมาณ 17% นับตั้งแต่ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
"ราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยกระตุ้นให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น" วิคเตอร์ ชุม นักวิเคราะห์จากเพอร์วิน แอนด์ เกิร์ทซ์กล่าว โดยให้รายละเอียดว่า "เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง"
เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันให้นักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินที่อ่อนค่าต้องซื้อน้ำมันดิบในราคาที่แพงขึ้น นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซายังเป็นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนบางรายโยกย้ายฐานเงินทุนออกจากตลาดน้ำมัน
"ผมคิดว่าข้อมูลสต็อกน้ำมันจะยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการน้ำมันในสหรัฐที่ชะลอตัวลง และอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัว" ชุมกล่าวเสริม
นายชุมกล่าวว่า การซื้อขายในตลาดน้ำมันที่เหงียบเหงาส่วนหนึ่งเป็นผลจากแถลงการณ์ของบริษัทโรยัล ดัชต์ เชลล์ที่ระบุว่าบริษัทได้ระงับการลำเลียงน้ำมันดิบหลังจากที่มีกองกำลังทหารโจมตีฐานการผลิตน้ำมันสำคัญในไนจีเรีย
โดยเชลล์ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า สถานีจ่ายน้ำมันบอนนี่อาจไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันได้ตามสัญญาก่อนช่วงสิ้นเดือนก.ย.นี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--