ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยในระหว่างวัน ราคาได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าพายุโซนร้อน"เอดูอาร์ด"ไม่มีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสในอ่าวเม็กซิโก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 3.69 ดอลลาร์ หรือ 2.9% แตะระดับ 121.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 8.67 เซนต์ แตะระดับ 3.3501 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.รูดลง 8.41 เซนต์ ปิดที่ 3.0002 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 120.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
พายุโซนร้อนเอดูอาร์ดก่อตัวขึ้นเหนืออ่าวเม็กซิโก และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองกัลเวสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นท่าขนถ่ายน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ โดยศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐกำลังเฝ้าระวังพื้นที่บางส่วนของรัฐหลุยเซียน่าและเท็กซัสเนื่องจากอาจถูกเฮอริเคนพัดกระหน่ำ
พายุโซนร้อนเอดูอาร์ดมีความเร็วลมสูงสุดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ณ เวลาประมาณ 4.00 น.วานนี้ (ตามเวลาเมืองฮุสตัน) และพัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองกัลเวสตันในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐประเมินว่าพายุโซนร้อนเอดูอาร์ดจะไม่สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก
ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จากบริษัท ออยล์ ไพรซ์ อินฟอร์เมชัน เซอร์วิส ในรัฐนิวเจอร์ซี กล่าวว่า ในระหว่างวันนั้น ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงไปกว่า 5 ดอลลาร์ ซึ่งฉุดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆร่วงลงด้วย อาทิ ข้าวโพดและทองแดง โดยปัจจัยสำคัญที่ถ่วงราคาน้ำมันร่วงลงมาจากรายงานที่ว่าพายุโซนร้อนเอดูอาร์ดจะไม่กระทบแท่นขุดเจาะพลังงานในอ่าวเม็กซิโก
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดราคาน้ำมันร่วงลงมากจากรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากซาอุดิอาระเบีย ในขณะที่ประเทศอื่นๆผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนมิ.ย.ร่วงลง 0.8% ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันเบนซินภายในประเทศที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งการลดลงของตัวเลขดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า ภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัยและราคาน้ำมันเบนซินภายในประเทศที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง กำลังบั่นทอนอำนาจซื้อของผู้บริโภคและฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยลงด้วย
นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูสถานการณ์นิวเคลียร์อิหร่าน หลังจากนายมาห์มุด อาห์มาดิเนจ๊าด ประธานาธิบดีอิหร่าน ยืนยันว่าจะไม่ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์แม้ถูกกดดันจากชาติมหาอำนาจและอาจเสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีอิหร่านยังประณามประเทศมหาอำนาจของโลกที่ขยายคลังสรรพาวุธของตนเอง แต่กลับพยายามทำลายโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติของอิหร่าน
กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--