ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่ราคาพลาตินัมร่วงลงอย่างรุนแรงเนื่องจากความกังวลที่ว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐทรุดตัวลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 907.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 900.1-900.1 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 17.140 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 38.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 13.85 เซนต์ ปิดที่ 3.44 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,563.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 92.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 354.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ทรุดตัวลง 16.65 ดอลลาร์
ริชาร์ด เฟลเตส นักวิเคราะห์จากบริษัทเอ็มเอฟ โกลบอล ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 3.69 ดอลลาร์ หรือ 2.9% แตะระดับ 121.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐประเมินว่าพายุโซนร้อน"เอดูอาร์ด"จะไม่สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของสหรัฐ
ขณะที่ราคาพลาตินัมร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลที่ว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐตกต่ำลงจะทำให้ความต้องการพลาตินัมลดลงด้วย เนื่องจากพลาตินัมเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใช้ผลิต catalytic converter ในรถยนต์ นอกจากนี้ ราคาพลาตินัมร่วงลงแม้ยังคงเกิดวิกฤตการณ์พลังงานในแอฟริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่ของโลกและเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--