ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ออีกกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษและยุโรปประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และยอดทำสัญญาซื้อขายบ้านของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 877.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 5.10 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวในช่วง 892.60-874.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 16.257 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 24.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 3.418 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,582.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 27.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนก.ย.ปิดที่ 348.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 6.10 ดอลลาร์
คาร์ลอส ซานเชส นักวิเคราะห์จากบริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ป กล่าวว่า "ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งเกินคาด และหลังจากธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษตรึงดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบปรับฐานขึ้นได้ช่วยสกัดแรงขายในตลาดทองคำเอาไว้ได้บ้าง"
ราคาพลาตินัมร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลที่ว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐตกต่ำลงจะทำให้ความต้องการพลาตินัมลดลงด้วย เนื่องจากพลาตินัมเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใช้ผลิต catalytic converter ในรถยนต์
นักลงทุนยังคงจับตาวิกฤตการณ์พลังงานในแอฟริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่ของโลกและเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และจับตาดูการประท้วงของคนงานเหมืองพลาตินัมในแอฟริกาใต้ ทั้งนี้ ปัญหาด้านเครื่องจักร อุบัติเหตุ และการปิดซ่อมบำรุง เป็นสาเหตุทำให้ผลผลิตทองคำและพลาตินัมในแอฟริกาใต้ลดลงในปีที่แล้ว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--