สมาคมกาแฟและโกโก้เวียดนามเปิดเผยว่า ผลผลิตกาแฟของเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ปลูกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล จะมีปริมาณน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ลวง วัน ตู ประธานสมาคมฯ กล่าวว่า ผลผลิตกาแฟที่เก็บเกี่ยวได้จะอยู่ที่ 950,000 เมตริกตันสำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2552 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 1 ล้านตันที่ได้มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ ฟอร์ทิส บริษัทให้บริการด้านการเงินของเบลเยียม ระบุในรายงานเดือนมิ.ย.ว่า เวียดนามจะผลิตกาแฟได้ 1.3 ล้านตัน
ผลผลิตกาแฟที่ร่วงลงของเวียดนาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นพันธุ์โรบัสต้าที่มีรสชาติขมกว่าและใช้สำหรับชงกาแฟเอสเพรสโซ่และกาแฟสำเร็จรูป อาจส่งผลให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับตัวขึ้นในการซื้อขายที่ลอนดอน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เนสท์เล่ บริษัทอาหารรายใหญ่ที่สุดในโลก และบริษัทคราฟท์ ฟู้ด ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น โดยโรบัสต้ามีราคาสูงขึ้น 30% ในปีที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--