ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นเกือบ 3 ดอลลาร์ และความขัดแย้งระหว่างกองกำลังทหารจอร์เจียและรัสเซีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 831.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 16.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 811.50-836.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 14.845 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 36.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้น 12.45 เซนต์ ปิดที่ 3.352 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,516.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 37.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 316.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์
แลร์รี ยัง นักวิเคราะห์จากบริษัทอินฟินิตี้ โบรกเกอเรจ กล่าวว่า "สถานการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังทหารจอร์เจียและรัสเซียส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าตลาดทองคำอย่างคับคั่ง ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ปรกติที่นักลงทุนจะเข้าซื้อทองคำในยามที่เกิดสงคราม นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบยิ่งกระตุ้นภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำให้คึก"
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ แสดงความกังวลเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย พร้อมกับสั่งให้กองทัพสหรัฐจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่จอร์เจีย และกล่าวว่ารัสเซียยึดมั่นในคำสัญญาและควรยุติการใช้กำลังทางทหารกับจอร์เจีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐ
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองทั่วโลกลดลง 19% แตะระดับ 735.6 ตันในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยราคาที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและภาวะผันผวนในตลาด ทำให้คำสั่งซื้อชะลอตัวลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--