สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 117 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันนี้ โดยราคาน้ำมันพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อน หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งได้จุดกระแสความวิตกกังวลต่อปริมาณน้ำมันขึ้นมาอีกระลอก
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวในสหรัฐอาจช่วยชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้
ทั้งนี้ ณ เวลา 09.19 น. ตามเวลาในประเทศไทยในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้น 91 เซนต์ แตะระดับ 116.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 8 ส.ค.ลดลง 400,000 บาร์เรล แตะระดับ 296.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะขยับลงเพียง 200,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 6.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 202.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 131.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและสหรัฐต่อกรณีการสู้รอบในจอร์เจียยังกระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ห่างจากระดับสูงสุดในปีนี้ที่กว่า 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อช่วงกลางเดือนก.ค. และนักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาน้ำมันยังไม่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเข้าใกล้ระดับดังกล่าวในเร็วๆนี้
ขณะเดียวกัน ตลาดกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของโอเปคเพื่อดูว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ หลังจากที่นายมูฮัมหมัด อาลี คาติบี รมว.พลังงานอิหร่านกล่าวว่า ทางโอเปคควรปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันหากความต้องการน้ำมันยังในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--