ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ราคาแก๊สธรรมชาติเหลว (LNG) ในภูมิภาคเอเชียจะพุ่งขึ้นราว 80% ในปีนี้ เนื่องจากโครงการขุดเจาะแก๊สธรรมชาติใหม่ๆล่าช้าออกไป และหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซียและอียิปต์ ควบคุมการส่งออก
จอห์น แฮร์ริส ผู้อำนวยการสถาบันเคมบริดจ์ เอนเนอร์จี รีเสิร์ช แอสโซซิเอทส์ ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า "ราคาแก๊ส LNG อาจพุ่งขึ้นสูงถึง 25 ดอลลาร์/BTU (British Thermal Unit) ในฤดูหนาวนี้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อแก๊ส LNG รายใหญ่สุดของโลก ทุ่มเงินซื้อแก๊ส LNG ในตลาดสปอตในราคา 14.10 ดอลลาร์/BTU เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่จีนทุ่มซื้อในราคา 14.35 ดอลลาร์/BTU"
การผลิตแก๊ส LNG ในรัสเซีย เยเมน และอินโดนีเซีย ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันได้ 24 ล้านเมตริกตัน อาจล่าช้าออกไปจนถึงปีหน้า หลังจากวางแผนไว้ว่าจะเริ่มการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ คาดว่าอุปทานก๊าส LNG จะตึงตัวเนื่องจากเกาหลีใต้สั่งนำเข้าก๊าส LNG เพิ่มขึ้น 3.5% และญี่ปุ่นสั่งซื้อก๊าส LNG เพิ่มขึ้นด้วยหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องปิดโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
แอนดรูว์ ฟลาวเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจก๊าส LNG และอดีตผู้บริหารบริษัทบีพีกล่าวว่า "ฤดูหนาวปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่อุปทานก๊าส LNG เข้าสู่ภาวะตึงตัวที่สุด ผมคาดว่าปริมาณก๊าสจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้ ผมประเมินว่าอียิปต์ผลิตน้ำมันได้ราว 5.2 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ"
ขณะที่นักวิเคราะห์จากวู๊ด แมคเคนซี คอนซัลแตนท์ กล่าวว่า "ก๊าส LNG จะมีบทบาทสำคัญไม่น้อยกว่าน้ำมันและปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกับราคาน้ำมันในปีนี้ เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 124 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาสสี่ปีนี้ และคาดว่าราคาก๊าส LNG จะเคลื่อนไหวที่ 21 ดอลลาร์/BTU
นายไออิน อาริฟิน ทัคยัน รองประธานบริษัทเพอร์ตามินา ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บริษัทจะลดการส่งออกน้ำมันให้กับญี่ปุ่นราว 75% หลังจากสัญญาการส่งออกหมดอายุลงในปีพ.ศ.2554 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--