ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 22.40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้เกิดแรงเทขายทอง รวมถึงโลหะมีค่าอื่นๆเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงยิ่งกดดันให้ราคาทองดิ่งลงอย่างหนัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 792.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลงจาก 808.20 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ในช่วงเช้าได้ร่วงลงแตะ 777.70 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ทั้งที่เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองคำยังแข็งแกร่งที่เหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 12.815 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.415 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 1.75 เซนต์ แตะที่ 3.3225 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,388.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 100.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 284.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 23.20 ดอลลาร์/ออนซ์
การร่วงลงของราคาทองเมื่อวานนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเงินดอลลาร์ทะยานขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ว่าผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ขณะที่เงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจยุโรปกำลังประสบภาวะชะลอตัว การซื้อขายยูโรเมื่อวานนี้อยู่ที่ $1.4672 ลดลงจาก $1.4811 เมื่อวันพฤหัสบดี
ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดร่วงลง 1.24ดอลลาร์ แตะที่ 113.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทรุดลงแตะ 111.34 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. และต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 147 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 ก.ค. อยู่ถึง 35 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 24%
นักลงทุนเชื่อว่าอุปสงค์ทั่วโลกจะสะเทือน เนื่องจากรายงานที่มีการเปิดเผยในช่วงนี้ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น เยอรมนี และฝรั่งเศส กำลังอ่อนแอลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาโภคภัณฑ์ทั้งหลายที่พุ่งสูงขึ้นมากในปีนี้
เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก MF Global ในนิวยอร์ก กล่าวว่า ขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นเดียวกับสหรัฐ จึงมีความเป็นไปได้มากว่าการถือเงินดอลลาร์ไว้จะปลอดภัยกว่า นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ยังมีผลทำให้สินค้าสหรัฐที่ส่งออกไปขายยังต่างประเทศมีราคาแพงขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะมีสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐไปขายในต่างประเทศลดลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--