ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 11 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วัน หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 114 ดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 816.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 787.50-820.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.105 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.8 เซนต์ ปิดที่ 3.427 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,351.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 42.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 283.85 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.05 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทคิทโก บุลเลียน ในเมืองมอนทรีอัลกล่าวว่า "ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นถ้วนหน้า โดยนักลงทุนแห่กันเข้าเทรดในตลาดน้ำมัน ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆอย่างคึกคัก ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินในสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด"
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.2% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 27 ปี ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2548 โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนี PPI เดือนก.ค.พุ่งขึ้นเกินคาดมาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น 3.1% และราคาอาหารที่พุ่งขึ้น 0.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--