ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบปิดบวก 45 เซนต์ หลังสหรัฐเผยสต็อคน้ำมันเบนซินร่วงเกินคาด

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวก 45 เซนต์เมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) โดยราคาทะยานขึ้นเข้าใกล้ระดับ 115 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์ต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลก อาทิ การตัดสินใจเรื่องปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปค และเหตุการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 114.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 117.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 3.98 เซนต์ ปิดที่ 3.1635 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 4.64 เซนต์ แตะระดับ 2.9103 ดอลลาร์/แกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
          กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด  ณ วันที่ 15 ส.ค. พุ่งขึ้น 9.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 305.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่รอลสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 23 มี.ค. 2544 
          ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 6.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 196.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และดีเซล เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล แตะระดับ 132.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่น ลดลง 0.2% แตะระดับ 85.7%
          เจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า "นักลงทุนไม่ให้ความสนใจกับสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง แต่ให้น้ำหนักกับสต็อกน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงอย่างหนัก และหันไปจับตาดูสถานการณ์ที่อาจคุกคามเสถียรภาพด้านอุปทานน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย การประชุมโอเปค และพายุเฟย์"
          ราฟาเอล รามิเรซ รมว.พลังงานเวเนซูเอลากล่าวว่า เวเนซูเอลาจะเสนอที่ประชุมโอเปคให้ลดปริมาณการผลิตน้ำมัน หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยการประชุมโอเปคครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ 
          "หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงรุนแรงหรือร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เวเนซูเอลาจะสนับสนุนให้โอเปคลดการผลิตในการประชุมครั้งหน้าเดือนก.ย.นี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วกว่า 20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเก็งกำไรในตลาด ผมมองว่าราคาน้ำมันดิบควรจะตรึงอยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์" รามิเรซกล่าว
          ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐพยากรณ์ว่า พายุโซนร้อน "เฟย์" จะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนภายใน 2 วันข้างหน้านี้ หลังจากพัดเข้าสู่เซาท์ฟลอริด้าด้วยความเร็วลม 65 ไมล์ต่อชั่วโมง และคร่าชีวิตประชาชนกว่า 10 คนในขณะเคลื่อนตัวผ่านมหาสมุทรคาริบเบียน พร้อมประกาศจับตาดูความเคลื่อนไหวของพายุเฟย์ที่บริเวณชายฝั่งรัฐฟลอริด้าและจอร์เจีย
          ส่วนสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและจอร์เจียนั้น ล่าสุดสหรัฐและประเทศพันธมิตรในยุโรปยังคงใช้ความพยายามในการพลิกผันสถานการณ์การบุกโจมตีจอร์เจียของรัสเซีย หลังจากที่คอนโดลิสซา ไรซ์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ออกมาย้ำกับรัสเซียไม่ให้หวนกลับไปทำสงครามเย็นเหมือนเมื่อปี 2513 รวมทั้งการรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน
          ประเทศพันธมิตรสหรัฐและจอร์เจียชี้ว่า กองทัพรัสเซียยังคงควบคุมพื้นที่ 1 ใน 3 ของจอร์เจีย ซึ่งรวมถึงท่าเรือโพทีในทะเลดำ และเมืองโกรี ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 16 ส.ค.