ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองปิดพุ่ง $22.70 หลังน้ำมันดิบพุ่งแรง,ดอลล์ร่วง

ข่าวต่างประเทศ Friday August 22, 2008 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 22 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์ เนื่องจากความตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์สู้รบระหว่างจอร์เจียและรัสเซีย นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงยังช่วยหนุนราคาทองพุ่งขึ้นด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราคาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 839.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 22.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 816.60-845.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.727 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 68.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 14.3 เซนต์ ปิดที่ 3.5385 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,458.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 89.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 289.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.60 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทคิทโก บุลเลียน ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคัก รวมถึงทองคำ สถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและจอร์เจียทำให้นักลงทุนตื่นตระหนกและเข้าซื้อทองคำเพื่อประกันความเสี่ยง"
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการเงิน หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เลห์แมน บราเธอร์ส จะขาดทุนอย่างหนักถึง 2.5-3.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสาม และยังปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสสามและผลประกอบการตลอดปีพ.ศ.2551 ของเมอร์ริล ลินช์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และมอร์แกน สแตนลีย์ โดยคาดว่าวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีโดยรวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว และส่งผลให้สถาบันการเงินหลายแห่งขาดทุนหนักสุดเป็นประวัติการณ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ