สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในเช้าวันนี้ (27 ส.ค.) โดยราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเฉียดระดับ 117 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อเหตุพายุกุสตาฟที่มุ่งหน้าพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตน้ำมันและก๊าซที่สำคัญของสหรัฐ
ณ เวลา 09.35 น.ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.และได้มีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 44 เซนต์มาอยู่ที่ระดับ 116.71 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่องจากที่ไต่ระดับขึ้น 1.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 42 เซนต์ แตะที่ระดับ 115.05ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ พายุเฮอริเคนกุสตาฟได้อ่อนกำลังลงเป็นพายโซนร้อนในวันนี้ หลังจากที่พัดเข้าสู่ไฮติเมื่อวานนี้ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติพยากรณ์ว่า พายุลูกดังกล่าวจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนอีกครั้งและอาจกลายเป็นพายุรุนแรงลูกแรกที่สร้างความเสียหายให้กับฐานการผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกหลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เมื่อปี 2548
นอกจากนี้ พายุกุสตาฟอาจมุ่งหน้าสู่รัฐเท็กซัสและหลุยส์เซียนา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผลิตน้ำมันได้ 25% ของน้ำมันดิบในสหรัฐและเป็นแหล่งสูบก๊าซธรรมชาติได้ 15% ของผลผลิตก๊าซธรรมชาติทั้งหมดในประเทศ
"ผมเกรงว่า พายุกุสตาฟอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงเช่นเดียวกับพายุเฮอริเคนแคทริน่าและริต้า ซึ่งเราไม่ต้องการให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก" เท็ตซี อีโมริ นักวิเคราะห์จาก Astmax Co กล่าว
ด้านบริษัทโรยัล ดัชต์ เชลล์ พีแอลซี (Royal Dutch Shell Plc) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มดำเนินการอพยพพนักงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตหรือการขุดเจาะน้ำมันออกจากพื้นที่ชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโกเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากพายุกุสตาฟ