กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต๊อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 ส.ค. ร่วงลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 305.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วประมาณ 6.1% และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล หรือ 0.6% แตะระดับ 195.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับของปีที่แล้วประมาณ 1.1% แต่ยังลดลงไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 2.8 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อำน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันกลั่น ทรงตัวอยู่ที่ 132.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยรอบ 4 สัปดาห์อยู่ที่ 9.4 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.6% แตะระดับ 87.3%
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--