ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบร่วงปิด $109.71 หลังพายุ"กุสตาฟ"ไม่กระทบแท่นขุดเจาะ

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอริเคน"กุสตาฟ" ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่บริษัทพลังงานหลายแห่งพร้อมที่จะดำเนินการผลิตอีกครั้ง
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 5.75 ดอลลาร์ หรือ 5% แตะที่ 109.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 109.71-106.80 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1% แตะที่ 108.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุเฮอริเคนกุสตาฟอ่อนลงกลายเป็นพายุโซนร้อน ด้วยความเร็วลม 96 กม.ต่อชั่วโมงขณะเคลื่อนผ่านข้ามรัฐหลุยเซียนาเข้าสู่รัฐเท็กซัส หลังพัดถล่มชายฝั่งรัฐหลุยเซียนาแถบเมืองนิวออร์ลีนส์ด้วยความแรงของเฮอริเคนระดับ 2 ที่ 177 กม.ต่อชั่วโมง ทำให้เกิดฝนตกหนัก เกิดคลื่นยกตัวสูง 3-5 เมตร น้ำท่วมบางพื้นที่ แต่ไม่เกิดความเสียหายรุนแรงดังที่คาดการณ์กันก่อนหน้านี้
          อย่างไรก็ตาม เฮอริเคนกุสตาฟพัดคร่าชีวิตชาวเฮติ 77 ราย สูญหาย 8 คน บาดเจ็บอีก 36 คน บ้านเรือนเสียหาย 11,458 หลัง ส่วนที่คิวบาบ้านเรือนราษฎรเสียหายมากกว่า 90,000 หลัง ขณะที่ทางการสหรัฐประเมินความเสียหายจากพายุลูกนี้ทั้งหมดราว 6,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
          นอกจากนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติระบุว่า เกิดพายุใหม่ในมหาสมุทรแอตแลนติกอีก 2 ลูก คือพายุเฮอริเคน"ฮานนา" ก่อตัวเป็นเฮอริเคนระดับ 1 ด้วยความเร็วลมศูนย์กลางพายุ 130 กม.ต่อชั่วโมง พัดถล่มหมู่เกาะเติร์กส์และไคคอส และคาดว่าพายุฮานนาจะเพิ่มความรุนแรงและพัดสู่ชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
          ส่วนพายุอีกลูกหนึ่งคือ พายุ"ไอเก" ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 9 ในฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ แต่ระดับความรุนแรงในขณะนี้ยังเป็นเพียงพายุโซนร้อน ด้วยความเร็วลมศูนย์กลางพายุราว 85 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งพัดมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะลีเวิร์ด อย่างไรก็ตาม คาดว่าพายุไอเกจะทวีความรุนแรงถึงระดับเฮอริเคนในอีก 1-2 วันข้างหน้านี้                
          จีน แมคกิลเลียน นักวิเคราะห์จาก TFS Energy LLC ในเมืองสแตมฟอร์ด รัฐคอนเน็กติกัตกล่าวว่า "นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากมีรายงานว่าพายุกุสตาฟไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในเขตกัลฟ์โคสต์ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าพายุกุสตาฟจะสร้างความเสียหายน้อยกว่าพายุเฮอริเคนแคทรินาและริต้า"
          บริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ บริษัทโทเทล และบริษัทโคโนโคฟิลิปส์ ยืนยันว่า บริษัทจะเร่งตรวจสอบแท่นขุดเจาะน้ำมันในเขตกัลฟ์โคสต์วันนี้ หลังจากบริษัทได้ปิดดำเนินการที่แท่นขุดเจาะในพื้นที่ดังกล่าวเพราะเกรงผลกระทบจากพายุกุสตาฟ
          นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ โดยล่าสุดนายโชกรี กาห์เน็ม รมว.พลังงานลิเบียเชื่อว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งสามารถผลิตน้ำมันได้ราว 40% ของผลผลิตทั่วโลก อาจตรึงเพดานการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิมที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ตลาดน้ำมันดิบตกอยู่ในภาวะมีอุปทานอยู่มากเกินไปก็ตาม