เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลหะจะพุ่งขึ้น 10% ภายในปลายปีนี้ เพราะเชื่อว่าความต้องการอัญมณีจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลวิวาห์และเทศกาลเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ในอินเดีย
เบนแดน เจมส์ นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนคาดว่า นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 เป็นต้นมา เทศกาลเฉลิมฉลองในอินเดียเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นทุกๆปี และจากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 10.1% ในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.
อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อทองคำแท่งรายใหญ่สุดของโลก ได้นำเข้าทองคำเพิ่มขึ้น 56% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนครั้งแรกในรอบ 11 เดือน เนื่องจากยอดขายอัญมณีพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนคาดว่า ราคาทองคำซึ่งดิ่งลงไปกว่า 3.5% ในปีนี้นั้น จะดีดตัวขึ้นเนื่องจากความต้องการอัญมณีในอินเดีย ตะวันออกกลาง ปรับตัวสูงขึ้น
"จากข้อมูลวิเคราะห์ที่รวบรวมได้ทำให้เราเชื่อว่าช่วงเทศกาลแต่งงานในอินเดียจะทำให้ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้น ข้อมูลวิเคราะห์ของเราสะท้อนให้เห็นว่าเทศกาลดังกล่าวในอินเดียมีผลกระทบในด้านบวกต่อตลาดทองคำมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวอาจทำให้เราเห็นราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากเมื่อ 4 เดือนก่อน" เจพีมอร์แกนกล่าว
สัญญาทองคำ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดออสเตรเลีย ดีดตัวขึ้น 0.3% แตะระดับ 803.45 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงเช้านี้
ธนาคารยูบีเอสคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ความต้องการทองคำในอินเดียจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลวิวาห์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค. นอกจากนี้ กลุ่มผู้ซื้อจะซื้อโลหะมีค่าและทองคำเพื่อใช้ใน "เทศกาลทิวาลี" หรือ "เทศกาลแห่งความสว่าง" โดยยูบีเอสคาดว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ คาดว่า ราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากผลผลิตในเหมืองทองคำทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงและต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะผลผลิตทองคำจากบริษัท Newcrest Mining Ltd. และบริษัท Lihir Gold Ltd. ซึ่งเป็น 2 บริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ของออสเตรเลีย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--