กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ส.ค. ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 303.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 194.4 ล้านบาร์เรล แต่ยังไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 400,000 บาร์เรล แตะที่ 131.7 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า กระทรวงพร้อมที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์มาใช้บรรเทาความเดือดร้อน หากพายุเฮอริเคน "กุสตาฟ" สร้างความเสียหายให้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม พายุดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันในวงจำกัดเท่านั้น กระทรวงพลังงานจึงยังไม่ระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองจนถึงขณะนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--