สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.ย.) โดยราคาน้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ช่วยทำให้นักลงทุนเบี่ยงเบนความสนใจที่จะเข้าเก็งกำไรในตลาดน้ำมันไปลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตราแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ลดลง 45 เซนต์ แตะที่ระดับ 107.44 ดอลลาร์/บาร์เรลต่อเนื่องจากที่ปิดร่วงลง 1.46 ดอลลาร์ แตะที่ 107.89 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
โดยในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดำดิ่งลงไปแล้วกว่า 6% เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ที่ว่าเศรษฐกิจยูโรกำลังชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนเตรียมเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อต้นปีนี้จนทำให้ราคาน้ำมันดิบ ทอง ข้าวโพด และน้ำมันเบนซินพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
"เราเห็นว่านักลงทุนกำลังปลีกตัวออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และหันไปซื้อเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า" จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล อิงค์ในนิวยอร์กกล่าว "นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันยังอยู่ในขั้นที่เลวร้ายเนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา"
ทั้งนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยดิ่งลงแตะที่ระดับ 1.4334 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4498 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อวานนี้ ขณะที่นายฌอง-คล้อด จุงค์เกอร์ รัฐมนตรีคลังลักเซมเบิร์ก ซึ่งเป็นประธานเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปกล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรปยังไม่ดีนักและเราอาจต้องปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเดือนนี้
นอกจากนี้ กระทรวงน้ำมันสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 303.9 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลไม่มั่นใจว่ารายงานสต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังจากที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งได้ปิดฐานการผลิตและโรงกลั่นน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกขณะที่พายุกุสตาฟเข้าถล่มรัฐหลุยส์เซียน่า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--