ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงแตะระดับต่ำกว่า 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบห้าเดือนเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่าเฮอริเคน "ไอค์" จะไม่มุ่งหน้าถล่มแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกตามที่หวั่นเกรงกันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการที่ประธานกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าทางกลุ่มจะไม่ลดเพดานการผลิตในการประชุมวันนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 3.08 ดอลลาร์ แตะระดับ 103.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 8.84 เซนต์ แตะที่ 2.9247 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 9.77 เซนต์ แตะที่ 2.6526 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 3.10 ดอลลาร์ แตะที่ 100.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ระหว่างวันได้ร่วงลงสู่ระดับ 98.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จาก Alaron Trading Corp. ในชิคาโกกล่าวว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าไอค์และโอเปคไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับอุปทานน้ำมันแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ราคาน้ำมันจะยังคงเดินหน้าต่อ
เฮอริเคนไอค์พัดขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบาในช่วงเช้าวันอังคาร โดยเป็นการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการคาดการณ์ว่าพายุลูกดังกล่าวจะมุ่งหน้าไปยังอ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นที่ตั้งของแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซที่สำคัญ นอกจากนี้พายุยังได้อ่อนกำลังลงในวันจันทร์จากพายุที่มีความรุนแรงระดับ 3 เป็นระดับ 1
จิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน Ritterbusch and Associates กล่าวว่า จากข้อมูลคาดการณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้ เฮอริเคนจะไม่พัดเข้ามาใกล้แท่นน้ำมัน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันอาจจะขยับลงต่อเนื่องสู่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ "ไอค์" จะเป็นปิศาจร้ายตัวจริง โดยนักพยากรณ์อากาศเตือนว่าระบบความกดอากาศต่ำอาจพาพายุเคลื่อนตัวขึ้นทางตอนเหนือ ซึ่งจะเป็นการจำกัดแรงกดดันช่วงขาลงของราคาน้ำมัน ด้านเอ็นซอนโมบิล และบีพี ก็ไม่ประมาทด้วยการสั่งอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะในอ่าวเม็กซิโกซึ่งอาจเป็นเส้นทางผ่านของพายุ
นอกจากปัจจัยเรื่องเฮอริเคนแล้ว เทรดเดอร์ในตลาดน้ำมันยังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ที่นครเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรียอย่างใกล้ชิด
โดยรัฐมนตรีน้ำมันจากกลุ่มโอเปคมีกำหนดการประชุมร่วมกันเพื่อตัดสินใจว่าจะคงระดับการผลิตในปัจจุบันไว้หรือไม่ แม้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันร่วงลงไปแล้วประมาณ 30% นับตั้งแต่ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
อิหร่านและสมาชิกส่วนหนึ่งผลักดันให้กลุ่มโอเปคที่ประกอบด้วยสมาชิก 13 ประเทศ ลดการผลิตลงเพื่อหนุนราคาน้ำมัน หรืออย่างน้อยก็พยุงราคาไม่ให้ขยับลงไปมากกว่านี้ แต่สมาชิกรายใหญ่สุดอย่าง ซาอุดิอาระเบีย รวมถึงสมาชิกบางประเทศ ไม่เห็นด้วยกับการลดการผลิต ซึ่งดูเหมือนว่านักวิเคราะห์จะคาดเดาเสียงส่วนใหญ่ของโอเปคได้ เมื่อนายชากิบ เคลิล รมว.น้ำมันแอลจีเรียในฐานะประธานกลุ่ม เผยว่าสมาชิกมีความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับเพดานการผลิต
"เราอาจจะคงการผลิตไว้ที่ระดับปัจจุบัน" เคลิล กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ก่อนหน้านี้ นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ก็ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากเดินทางถึงกรุงเวียนนาว่า ตลาดน้ำมันโลกในขณะนี้อยู่ในภาวะสมดุลดีแล้ว และผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของโอเปคเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของกลุ่มและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด
ด้านโมฮัมเหม็ด อับดุลลาห์ อัล-อาลีม รมว.น้ำมันของคูเวต ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีความจำเป็นที่โอเปคจะต้องลดการผลิต ส่งผลให้บรรดานักวิเคราห์และเทรดเดอร์คาดการณ์กันว่าโอเปคจะคงระดับการผลิตไว้เท่าเดิม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--