ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค ตัดสินใจลดการผลิตน้ำมันลงมากกว่า 500,000 บาร์เรล เพื่อควบคุมผลผลิตในปัจจุบันที่ทางกลุ่มเห็นว่าอยู่ในระดับที่สูงเกินไป
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีน้ำมันจาก 13 ชาติสมาชิกในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในเชิงประนีประนอม คือส่วนหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาวุ่นวายในตลาดน้ำมันไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีก ขณะเดียวกันก็สะท้อนความพยายามของโอเปคในการปกป้องราคาน้ำมันไม่ให้ขยับลงไปมากกว่านี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วเกือบ 30% นับตั้งแต่ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของโอเปคที่ออกมาภายหลังการประชุมระบุว่า ทางกลุ่มตกลงจะผลิตน้ำมันที่ระดับ 28.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยชากิบ เคลิล รมว.น้ำมันแอลจีเรียในฐานะประธานโอเปค กล่าวว่า เพดานการผลิตดังกล่าวหมายความว่าประเทศสมาชิกเห็นชอบให้ลดการผลิตที่มากเกินไปลง 520,000 บาร์เรลต่อวัน
สำหรับการตัดสินใจลดการผลิตในครั้งนี้เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมาย เนื่องจากก่อนหน้าการประชุม นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทันทีที่เดินทางถึงกรุงเวียนนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมว่า ตลาดน้ำมันโลกในขณะนี้อยู่ในภาวะสมดุลดีแล้ว และผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของโอเปคเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของกลุ่มและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด
ด้านโมฮัมเหม็ด อับดุลลาห์ อัล-อาลีม รมว.น้ำมันของคูเวต ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีความจำเป็นที่โอเปคจะต้องลดการผลิต ส่งผลให้บรรดานักวิเคราห์และเทรดเดอร์คาดการณ์กันว่าโอเปคจะคงระดับการผลิตไว้เท่าเดิม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--