กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 5 ก.ย. ทรุดตัวลง 5.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 298 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์โพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 6.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 187.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 130.5 ล้านบาร์เรล แต่ยังไม่มากเท่าที่คาดว่าจะร่วงลง 2.7 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า กระทรวงพร้อมที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์มาใช้บรรเทาความเดือดร้อน หากพายุเฮอริเคน "กุสตาฟ" สร้างความเสียหายให้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม พายุดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันในวงจำกัดเท่านั้น กระทรวงพลังงานจึงยังไม่ระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองจนถึงขณะนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--