ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) และเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบเพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย และเมอร์ริล ลินช์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ประกาศขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 5.47 ดอลลาร์ หรือ 5.41% ปิดที่ 95.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.13-101.19 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 14.79 เซนต์ ปิดที่ 2.7912 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 20.82 เซนต์ ปิดที่ 2.5614 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 5.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงเช้านั้น ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า พายุเฮอริเคน"ไอค์" ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อบริษัทพลังงานรายใหญ่ๆมากนัก โดยบริษัท วาเลโร่ เอ็นเนอร์จี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า โรงกลั่นน้ำมัน 3 แห่งที่ตั้งอยู่ในฮุสตันไม่ได้รับความเสียหายมากนักในระดับโครงสร้าง เนื่องจากเนื่องจากบริษัทได้สั่งปิดโรงงานก่อนที่พายุเฮอริเคนไอค์จะพัดเข้าถล่ม ส่วนบริษัท โรยัล ดัทช์ เชลล์ กำลังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหายที่โรงกลั่นในเท็กซัส และชี้ว่าขณะนี้ยังเร็วไปที่จะระบุได้ว่าจะเริ่มต้นการผลิตได้อีกครั้งเมื่อไร
โรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสและหลุยเซียน่าได้เตรียมความพร้อมที่จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง หลังจากที่เฮอริเคนไอค์ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับโรงกลั่นในพื้นที่มากนัก โดยโรงกลั่นเหล่านี้จัดส่งเชื้อเพลิงและน้ำมันดิบประมาณ 50% ของเชื้อเพลิงและน้ำมันดิบที่มีการใช้งานในพื้นที่ครึ่งหนึ่งของฝั่งตะวันออกของสหรัฐ
ต่อมาในช่วงสาย ราคาน้ำมันดิ่งลงไปอีกเมื่อมีรายงานว่า เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยืนยันว่า บริษัทได้มยื่นขอความคุ้มครองทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลาย หลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา และธนาคารบาร์เคลย์ส ปฏิเสธที่จะเข้าซื้อกิจการเลห์แมน บราเธอร์ส และหลังจากนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐที่เพิ่งประกาศแผนอุ้มกิจการแฟนนี เม และเฟรดดี แมค เมื่อสัปดาหก่อน กล่าวว่า เขาไม่คิดที่จะนำงบประมาณของรัฐบาลมากู้วิกฤตของเลห์แมน บราเธอร์ส
สตีเฟ่น ชอร์ก นักวิเคราะห์จากบริษัท Villanova ในเพนซิลวาเนีย กล่าวว่า "ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหนัก โดยเฉพาะข่าวที่เลห์แมน บราเธอร์ส ยื่นขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลาย และข่าวเมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา นักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กังวลว่า วิกฤตการณ์ด้านการเงินในตลาดสหรัฐจะรุนแรงที่กว่าความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอริเคน"
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อคน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งกระทรวงพลังงานจะเปิดเผยในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ร วันที่ 12 ก.ย. จะร่วงลง 3.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 4 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--