ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 22 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการลงทุนในตลาดทองคำน่าจะปลอดภัยมากกว่าในยามที่ตลาดการเงินเผชิญมรสุมรุนแรง หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย และเมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 787.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 22.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 767.40-789.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 11.135 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 34.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลดลง 5.75 เซนต์ แตะที่ 3.1365 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,176.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 34.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 238.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.80 ดอลลาร์
เลห์แมน บราเธอร์ส ยืนยันว่า บริษัทได้ยื่นขอความคุ้มครองทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลาย หลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา และธนาคารบาร์เคลย์ส ปฏิเสธที่จะเข้าซื้อกิจการเลห์แมน บราเธอร์ส ซึ่งธุรกิจที่ยื่นฟ้องขอพิทักษ์การล้มละลายครั้งนี้เป็นธุรกิจโฮลดิ้ง และไม่ครอบคลุมถึงบริษัทในเครือ
ขณะที่ เมอร์ริล ลินช์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ตกลงขายกิจการให้กับแบงก์ ออฟ อเมริกา โดยแบงค์ ออฟ อเมริกา เข้าซื้อหุ้นสามัญของเมอร์ริล ลินช์ มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมทั้งซื้อออปชัน หุ้นแปลงสภาพ และหน่วยหุ้น RSU (restricted stock units) เป็นมูลค่ารวมกันอีก 6 พันล้านดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Kitco Bullion Dealers ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "ข่าววาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ล้มละลายได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำ เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดในยามที่ตลาดการเงินผันผวนอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงกว่า 5 ดอลลาร์ ซึ่งโดยปกติเมื่อราคาน้ำมันร่วง ราคาทองก็จะร่วงตามด้วย"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--