สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ดีดตัวขึ้นในเช้าวันนี้ (17 ก.ย.) ขานรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประกาศแผนการช่วยเหลือบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นเนล กรุ๊ป (เอไอจี) ด้วยการให้วงเงินกู้ฉุกเฉินจำนวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ กำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐที่หยุดชะงักหลังจากพายุเฮอริเคนไอค์เข้าพัดถล่มแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและการโจมตีแท่นขุดเจาะน้ำมันในไนจีเรียยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้
ณ เวลา 08:23 น. ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ดีดตัวขึ้น 3.15 ดอลลาร์ไปแตะระดับ 94.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือนไปอยู่ที่ 90.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
"นักลงทุนเกรงว่าภาคการเงินที่อยู่ในภาวะวิกฤตรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเราหวังว่าความเคลื่อนไหวในการยื่นมือเข้าช่วยเหลือเอไอจีจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดฟื้นตัวดีขึ้น แต่หากดูตามกลไกตลาดแล้ว ปัญหาด้านอุปทานที่มีสูงกว่าอุปสงค์จะช่วยทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง" แอนโทนี่ นูนาน นักวิเคราะห์จากมิตซูบิชิ คอร์ปในโตเกียวกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้เห็นชอบแผนการที่เฟดให้เงินทุนช่วยเหลือ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่เอไอจี เพื่อป้องกันมิให้บริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ประสบภาวะล้มละลายดังเช่นที่เลห์แมน บราเธอร์สเผชิญไปในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ เหตุการณ์โจมตีแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 แห่งในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปียังเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่นักลงทุนปลีกตัวออกนอกตลาดจากการที่พุ่งเป้าด้านวิกฤติสินเชื่อในสัปดาห์นี้
ขณะที่เฮอริเคนไอค์ที่พัดถล่มแหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติหลายแห่งในอ่าวเม็กซิโกทำให้ผลผลิตน้ำมันต้องอาศัยเวลาอีกนานกว่าที่ผลผลิตจะเริ่มฟื้นตัวอย่างเต็มที่
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--