ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 6 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงเกินความคาดหมาย นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้กลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 6.01 ดอลลาร์ หรือ 6.59% ปิดที่ 97.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 91.36-97.45 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ดีดขึ้น 10.50 เซนต์ ปิดที่ 2.8247 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 6.22 เซนต์ ปิดที่ 2.4630 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินความคาดหมาย และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง เป็นสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นนักลงทุนให้กลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนาแน่น หลังจากที่ราคาดิ่งลงติดต่อกันหลายวันเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในตลาดการเงิน รวมถึงข่าวการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส และเมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา"
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 12 ก.ย. ร่วงลง 6.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 291.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะลดลงเพียง 3.8 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 900,000 บาร์เรล แตะระดับ 129.6 ล้านบาร์เรล แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 184.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 3.8 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 0.9% แตะระดับ 77.4%
"นอกจากนี้ รายงานข่าวที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจเข้าพยุงกิจการบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาดน้ำมัน และกระตุ้นนักลงทุนให้หันเข้าเทรดในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เพราะไม่ต้องการเสี่ยงในยามที่ตลาดเงินเผชิญปัญหาหนักหน่วง" ไฟนน์กล่าว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปล่อยวงเงินกู้ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้กับ AIG บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ แลกเปลี่ยนกับการที่เฟดเข้าไปถือหุ้น 79.9% ใน AIG โดยคณะกรรมการให้เหตุผลว่า การขาดสภาพคล่องของ AIG อาจซ้ำเติมตลาดการเงินที่เปราะบางอยู่แล้ว ให้แย่ลงไปอีก ดังนั้น การปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินจะช่วยให้ AIG มีความคล่องตัวทางการเงินจนสามารถดำเนินการตามภาระผูกพันเมื่อถึงเวลากำหนด และจะช่วยให้กระบวนการที่ AIG จะขายธุรกิจบางส่วนเป็นไปอย่างราบรื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่า กลุ่มก่อการร้ายใช้อาวุธโจมตีบริเวณบริเวณด้านนอกสถานทูตสหรัฐประจำเยเมน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ขณะที่กลุ่มอิสลามิค จีฮัด ในเยเมนได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ พร้อมขู่จะโจมตีสถานทูตอื่น ๆ อีก รวมทั้งสถานทูตอังกฤษ ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--