สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ขยับขึ้นเล็กน้อยในเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) หลังจากที่พุ่งทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนถึง 6 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง ขณะที่ความวิตกกังวลในตลาดวอลล์สตรีทได้จุดกระแสความกังวลระลอกใหม่จนทำให้นักลงทุนหันมาซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น
โดยในเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ขยับขึ้น 25 เซนต์ไปแตะระดับ 97.41 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดของวันที่ 98.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในกรุงลอนดอนไต่ระดับขึ้น 34 เซนต์อยู่ที่ 95.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
"บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นถูกปกคลุมด้วยความตื่นตระหนก ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เนื่องจากเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง" ปีเตอร์ แมคไควร์ นักวิเคราะห์จาก Commodity Warrants Australia กล่าว
ตลาดเงินทั่วโลกยังคงอยู่ในภาวะระส่ำระสาย แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐจะใช้มาตรการช่วยเหลืออเมริกัน อินเตอร์เนชั่นเนล กรุ๊ป อิงค์ (AIG) เป็นเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่นักลงทุนยังคงปลีกตัวออกนอกตลาดหุ้นเนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าแผนการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาในตลาดสินเชื่อได้
นอกจากนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมามีรายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐและบริษัทวอชิงตัน มูชวล ธนาคารรายใหญ่อีกแห่งกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขายกิจการ ขณะที่บริษัทลอยด์ ทีบีเอส ของอังกฤษเห็นพ้องที่จะซื้อกิจการของเอชบีโอเอส ผู้ออกสินเชื่อเคหะรายใหญ่สุดของประเทศ
ขณะเดียวกัน EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ทางสำนักงานกำลังพิจารณาขอให้สำนักงานพลังงานสากลระบายน้ำมันฉุกเฉินออกมาใช้รับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--