ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากความไม่มั่นใจในมาตรการแก้ป้ญหาภาคการเงินได้ฉุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง รวมถึงสัญญาทองคำ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 909.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 44.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 866.20-913.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 13.450 ดอลลาร์/อออนซ์ พุ่งขึ้น 97.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 7.85 เซนต์ แตะที่ 3.255 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,235.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 88.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 255.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.80 ดอลลาร์
แมทซ์ เซมาน นักวิเคราะห์จาก LaSalle Future ในชิคาโกกล่าวว่า "ในขณะที่ทางการสหรัฐพยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ไขปัญหาในภาคการเงินนั้น นักลงทุนกลับมองว่ามาตรการมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลสหรัฐจะใช้ซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินภายในประเทศอาจเป็นเหตุให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณบานปลาย และจะยิ่งทำให้ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่งสูงขึ้นด้วย"
"นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าภาวะขาดดุลของรัฐบาลสหรัฐจะยิ่งฉุดค่าเงินดอลลาร์ให้ร่วงลงอีก จึงได้แห่เข้าซื้อสัญญาทองคำและน้ำมันอย่างคับคั่ง หากสถานการณ์ในตลาดหุ้นและตลาดการเงินยังเป็นเช่นนี้ เราคาดว่าราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,000 ดอลลาร์" เซมานกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--