กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 19 ก.ย.ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 290.2 ล้านบาร์เรล แต่ไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะร่วงลง 2.0 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 178.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 9 สัปดาห์ และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 4 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ร่วงลง 4.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 125.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล และที่อัตราการกลั่นน้ำมันร่วงลง 10.7% แตะระดับ 66.7% ซึ่งเป็นพลมาจากพายุเฮอริเคน"ไอค์"พัดกระหน่ำเขตกัลฟ์โคสต์ จนเป็นเหตุให้โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดทำการ
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--