ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 13 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเดือนธ.ค.อย่างหนักหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าสภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและปอนด์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 882 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 13.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 868.80-903.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 13.275 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 16.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 2.8 เซนต์ แตะที่ 3.1345 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,191.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 39.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 242.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 10.40 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Kitco Bullion Dealers ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำซบเซาลงเมื่อมีข่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐ รมว.คลังและประธานเฟด พร้อมใจกันผลักดันแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยทำทุกวิถีทางที่จะให้แผนดังกล่าวผ่านมติความเห็นชอบจากสภาคองเกรส"
ประธานเฟดและรมว.คลังสหรัฐ เตือนสภาคองเกรสว่า ความล่าช้าในการอนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์จะยิ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคการเงินและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ประธานาธิบดีบุช ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะยาวและจะทำให้มีผู้ตกงานเป็นจำนวนมาก หากสภาคองเกรสไม่เร่งผ่านแผนฟื้นฟูภาคการเงิน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--