ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบปิดร่วง $10.52 หลังสภาคองเกรสคว่ำแผนฟื้นฟูภาคการเงิน

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยราคาดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสภาคองเกรสมีมติไม่รับแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ของสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจอาจทรุดตัวลงและจะยิ่งฉุดรั้งความต้องการพลังงานทั่วโลกให้ลดลงด้วย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 10.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 95.04 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 9.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ส่วนสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 26.81 เซนต์ ปิดที่ 2.397 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 22.89 เซนต์ ปิดที่ 2.7885 ดอลลาร์/แกลลอน
          ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ย.อย่างหนักหลังจากมีรายงานว่า สภาคองเกรสสหรัฐมีมติไม่รับแผนฟื้นฟูภาคเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ตามที่รัฐบาลสหรัฐยื่นเสนอก่อนหน้านี้ โดยสมาชิกสภาคองเกรสลงมติด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 205 เสียง ไม่รับรองร่างกฎหมายแผนฟื้นฟูภาคการเงิน โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มั่นใจในแผนการดังกล่าว
          "ตลาดถูกปกคลุมด้วยกระแสความวิตกกังวลว่า เมื่อสภาคองเกรสปฏิเสธแผนฟื้นฟูภาคการเงิน เศรษฐกิจก็จะยิ่งชะลอตัวลงเร็วขึ้นและจะยิ่งฉุดรั้งความต้องการพลังงานทั่วโลกลดลงด้วย ซึ่งความวิตกกังวลเช่นนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญานำมันดิบ" ไฟนน์กล่าว
          ทั้งนี้ ตลาด NYMEX ได้สั่งพักการซื้อขายสัญญาน้ำมันเบนซินทางระบบอิเล็คทรอนิเป็นการชั่วคราวในช่วงบ่ายวันจันทร์ หลังจากสัญญาทรุดลงมากกว่าฟลอร์ซื้อขายประจำวัน 25%
          เจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป ในรัฐฟลอริดา คาดการณ์ว่า "อัตราการใช้พลังงานในหลายประเทศจะลดลง แม้แต่จีนและอินเดียซึ่งเศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวอาจฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงลงอีก"