ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าสภาคองเกรสจะทบทวนแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ และจะตัดสินใจอนุมัติแผนการดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ในที่สุด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 4.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 101.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 4.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.17 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 10.62 เซนต์ ปิดที่ 2.8947 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดบวก 8.77 เซนต์ ปิดที่ 2.48 ดอลลาร์/แกลลอน
แมท ซีแมน นักวิเคราะห์จากบริษัท LaSalle Futures ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "ความคาดหวังที่ว่าสภาคองเกรสจะผ่านแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ได้กระตุ้นนักลงทุนให้กลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง หลังจากที่สภาคองเกรสสร้างปรากฏการณ์ 'ช็อค' ความรู้สึกของคนทั้งโลกด้วยการลงมติไม่รับรองแผนฟื้นฟูฉบับดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 205 เสียงเมื่อวันจันทร์ แต่ขณะนี้นักลงทุนใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นความพยายามของประธานาธิบดีบุชที่ยังเดินหน้าผลักดันแผนฟื้นฟูให้ผ่านมติสภาคองเกรสให้ได้"
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เปิดทำเนียบขาวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขึ้นอยู่กับการผลักดันมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินของรัฐบาล มิฉะนั้นเศรษฐกิจจะเสียหายอย่างรุนแรงและยืดเยื้อยาวนาน
ทั้งนี้ บุชกล่าวว่า "ผมขอให้ชาวสหรัฐและประชาชนทั่วโลกมั่นใจว่า นี่ไม่ใช่การสิ้นสุดของกระบวนการนิติบัญญัติ ผมให้คำมั่นสัญญาว่าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของเราจะเดินหน้าเจรจากับแกนนำในสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้เพื่อปรับปรุงกฎหมายที่จะแก้ไขวิกฤติ ทางการเงินของสหรัฐที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่"
เจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป ในรัฐฟลอริดา คาดการณ์ว่า "อัตราการใช้พลังงานในหลายประเทศจะลดลง แม้แต่จีนและอินเดียซึ่งเศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวอาจฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงลงอีก"
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--