ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและสินค้าทองคำประเภทอื่นๆ รวมถึงน้ำมันดิบ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 844.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 43.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 881.60-833.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 11.120 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.65 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.2 เซนต์ ปิดที่ 2.6275 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 986.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 56.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 203.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 7.75 ดอลลาร์
ทอม พอลลิกกี นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก MF Global Research ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโร (อีซีบี) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25% ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่เสี่ยงต่อการถดถอย
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 ก.ย.อยู่ที่ 497,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 475,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนส.ค.ในสหรัฐร่วงลงเกินคาด 4% ซึ่งเป็นการหดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีพ.ศ.2549 และดิ่งลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 2.5%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--