ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองปิดพุ่งต่อ $ 15.80 หลังดอลล์ร่วง,ดาวโจนส์ดิ่ง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 8, 2008 07:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 15.80 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยราคาเคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับ 900 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนอย่างต่อเนื่องเพราะมองว่าทองคำเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักในขณะนี้ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 882.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 15.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 858.00-893.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 11.380 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 15.55 เซนต์ ปิดที่ 2.5345 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,020.70 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 34.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 198.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 3.25 ดอลลาร์
แมทท์ เซแมน หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท LaSalle Futures ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ไม่สามารถคลี่คลายความกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดหุ้นยังไม่ให้น้ำหนักกับข่าวที่เฟดใช้มาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงิน ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 508.39 จุด หรือ 5.11% แตะที่ 9,447.11 จุด ซึ่งการที่ดาวโจนส์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 10,000 จุดถือว่าเข้าขั้นวิกฤตแล้ว"
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า วิกฤตการณ์การเงินอาจยืดเยื้อยาวนานต่อไปอีกและจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการแสดงความเห็นของเบอร์นันเก้เป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ