ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.36 ดอลลาร์และแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกที่พร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน อาจไม่สามารถยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกระหน่ำขายแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.65% ปิดที่ 86.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.32-89.82 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 7.59 เซนต์ ปิดที่ 2.4186 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับลง 0.25 เซนต์ ปิดที่ 2.0273 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนยังคงกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบแม้มีข่าวว่า กลุ่มโอเปคอาจจัดประชุมฉุกเฉินในเสาร์ที่ 18 พ.ย.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหารือกันถึงเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องและวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานทั่วโลก ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าโอเปคอาจจะลดเพดานการผลิตน้ำมัน
ก่อนหน้านี้ นายกาโล่ ชีริโบกา รองประธานของกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าอาจมีการลดเพดานการผลิตน้ำมัน โดยกล่าวว่า "ความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และการใช้น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้กลุ่มโอเปคต้องปรับเปลี่ยนการผลิตน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
"สภาคองเกรสสหรัฐไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในสหรัฐ ถึงแม้ว่าสภาได้ผ่านความเห็นชอบในมาตรการแก้ไขวิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์แล้วก็ตาม และขณะนี้กลุ่มโอเปคจะเริ่มประเมินสถานการณ์ในตลาดยุโรป ซึ่งหากการใช้น้ำมันยังลดลงอีก ก็มีแนวโน้มที่กลุ่มโอเปคจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการผลิตน้ำมัน หลังตัดสินใจลดการผลิตวันละ 520,000 บาร์เรลในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา" นายชีริโบกากล่าว
ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว หลังจากสหรัฐปิดการผลิตน้ำมัน 43.4% ในอ่าวเม็กซิโกเพราะได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนไอค์ ขณะที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งยังคงปรับเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต โดยบริษัท เปเม็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเม็กซิโก ระบุว่าทางบริษัทได้ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันกลับสู่ระดับปกติแล้ว หลังจากที่เคยปรับลดการผลิตลง 250,000 บาร์เรลต่อวันภายหลังจากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้รับความเสียหายจากพายุ เฮอริเคนไอค์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--