กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ประกาศจัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินทั่วโลกที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเคลื่อนไหวของโอเปคครั้งนี้ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า โอปคจะถือโอกาสลดเพดานการผลิต เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมัน
โอเปคออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า รัฐมนตรีพลังงานกลุ่มโอเปครู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก จึงมีมติให้จัดประชุมฉุกเฉินที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วกว่า 40% นับตั้งแต่ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินทั่วโลกส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจทั่วโลกลดการใช้พลังงาน
ส่วนเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.65% ปิดที่ 86.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า ความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกที่พร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน อาจจะไม่สามารถยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า โอเปคอาจใช้เวทีการประชุมนัดพิเศษที่กรุงเวียนนาในการประกาศลดเพดานการผลิตน้ำมันเพื่อสกัดกั้นราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงลงมากไปกว่า เพราะจะกระทบรายได้ของโอเปค
ก่อนหน้านี้ นายกาโล่ ชีริโบกา รองประธานของกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่า อาจมีการลดเพดานการผลิตน้ำมัน โดยกล่าวว่า "ความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และการใช้น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้กลุ่มโอเปคต้องปรับเปลี่ยนการผลิตน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
"สภาคองเกรสสหรัฐไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในสหรัฐ ถึงแม้ว่าสภาได้ผ่านความเห็นชอบในมาตรการแก้ไขวิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์แล้วก็ตาม และขณะนี้กลุ่มโอเปคจะเริ่มประเมินสถานการณ์ในตลาดยุโรป ซึ่งหากการใช้น้ำมันยังลดลงอีก ก็มีแนวโน้มที่กลุ่มโอเปคจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการผลิตน้ำมัน หลังตัดสินใจลดการผลิตวันละ 520,000 บาร์เรลในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา" นายชีริโบกากล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--