ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 4 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันในรอบสัปดาห์นี้ดิ่งหนักสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2547 หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วง เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆจะผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
ราคาน้ำมันนิวยอร์กดิ่งสุดในรอบ 1 ปี ส่วนราคาทองแดงซื้อขายด้วยราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2549 หลังจากที่เมื่อวานนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงต่ำกว่าระดับ 9,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 ในขณะที่ราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 11 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยหลังตลาดหุ้นเอเชียร่วงหนัก
"ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่สนใจลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อีก ยกเว้นทองคำ" โจนาธาน คอร์นาเฟล จากบริษัท ฮัดสัน แคปิตอล เอเนอร์จี ในสิงคโปร์ กล่าว "วิกฤตสินเชื่อทำให้คุณต้องเทขายทุกอย่างที่คุณมี สินทรัพย์ที่ดีก็ถูกขายออกไปในราคาต่ำไม่ต่างจากสินทรัพย์ที่ไม่ดี"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 4.59 ดอลลาร์ หรือ 5.3% แตะ 82 ดอลลาร์/บาร์เรล และอยู่ที่ระดับ 82.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 14.55 น.ตามเวลาสิงคโปร์ โดยในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบลดลงกว่า 12% และลดลงกว่า 44% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
"สถานการณ์ปัจจุบันน่าเป็นห่วงมาก" เดวิด มัวร์ นักยุทธศาสตร์จากคอมมอนเวลท์ แบงค์ ออฟ ออสเตรเลีย ในซิดนีย์ กล่าว "ตลาดหุ้นร่วงหนัก วิกฤตสินเชื่อก็ลุกลามไปทั่วโลก แนวโน้มเศรษฐกิจโลกก็ยังมืดมัว"
ด้านราคาทองแดงตลาดลอนดอนส่งมอบภายใน 3 เดือน ร่วงลงกว่า 9% แตะ 4,830 เมตริกตัน ส่วนราคานิกเกิล สังกะสี และอลูมิเนียมก็ลดลงเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--